เมื่อในชีวิตประจำวันของผู้คนสมัยใหม่เริ่มเป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงแบบดิจิตอล ทำให้การรับรู้สื่อต่างๆมีการเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณให้เห็นว่าดิจิตอลกำลังเป็นส่วนหนึ่งในโลกชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในมุมหนึ่ง คือ การเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภคไปจากเดิม ทำให้นักการตลาดยุคใหม่ต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อโลกดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นการลงโฆษณาผ่านสื่อ การวางแผนการตลาดผ่านระบบดิจิตอล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคสื่อดิจิตอล
พัฒนาการของเทคโนโลยีได้เพิ่มเทคนิคใหม่ๆ เข้ามา ทำให้มีลูกเล่น สำหรับการทำแคมเปญในสถานที่ที่ไม่จำเป็นว่าต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่บ้านหรือที่ทำงานอีกต่อไป ในต่างประเทศเริ่มเห็นการใช้ดิจิตอลบนท้องถนนบ่อยขึ้น เช่น การใช้ป้าย Billboard ที่ตอบสนองกับมือถือของผู้ใช้ และทำการเปลี่ยนป้าย ตามข้อมูลที่ถูกส่งมา หรือ ทำโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ให้คนส่งคอนเทนต์ของตัวเองขึ้นแสดงร่วมกัน เช่น การ Check-In การ Like การ Share และการติด #hashtag
เมื่อเทคโนโลยีทำให้ผู้บริโภคผลิตคอนเทนต์ดิจิตอลออกมาได้มาก เช่นเดียวกับการใช้บริการ ที่มีเทคโนโลยีดิจิตคอลอยู่ด้วย ทำให้เกิดข้อมูลมหาศาล ที่บ่งชี้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคต่างๆ เช่น สถานที่มีการถ่ายรูปมากที่สุด ช่วงเวลาที่มีคนเข้ามาคอมเมนต์มากที่สุด คำพูดที่มีการพูดถึงบ่อยที่สุด ที่เกิดขึ้นบนโลกดิจิตอล ทั้งในส่วนที่มาจากสื่อของตัวเอง เช่น Facebook Twitter ทำให้เกิดเทคโนโลยีซื้อสื่อโฆษณาที่สะดวกขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายง่ายขึ้น และยังปรับแต่งได้มากกว่าเดิม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณซื้อสื่อ เช่น Ad Network, Facebook Adมากขึ้น
จะเห็นได้ว่านักการตลาดสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น เพราะด้วยยุคดิจิตอลเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของผู้บริโภคไปจากยุคก่อนดิจิตอล และสร้างพฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ชนิดที่พลิกตำราการตลาดเดิม อีกทั้งยังการตลาดแบบใหม่นี้ทำให้สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมาย และมีระบบประมวลผลให้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยในการเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามนับเป็นความท้าทายใหม่ของแบรนด์และนักการตลาดว่า จะสามารถดึงตัวแบรนด์ออกมาให้กลายเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้อย่างไร