สำหรับชีวิตใครหลายต่อหลายคน คงอยากจะมีธุรกิจเล็กๆ สักอย่าง เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์การมีอาชีพที่มั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นคือปัจจัยพื้นฐาน ดังนั้นเมื่อพบว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จกับการเป็นลูกจ้าง ก็อยากทำธุรกิจที่ตัวเองมีความสุข เช่นเดียวกัน ร้านกาแฟเป็นหนึ่งในธรกิจยอดฮิตในช่วง เกือบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพราะได้รับอิทธิพลจากร้านกาแฟดังจากต่างประเทศ ที่เข้ามาทำตลาดเปิดขายในเมืองไทย มีร้านกาแฟเปิดขึ้นเป็นดอกเห็ด ใครๆ ก็อยากจะมีร้านกาแฟ แต่ก็มีหลายร้านที่ปิดตัวลงไป ถ้าถามว่ามันถึงจุดอิ่มตัวแล้วหรือยัง สำหรับการประเมินสถานการณ์คิดว่า ตลาดยังไม่อิ่มตัว แต่เนื่องจากมีผู้แข่งขันในตลาดจำนวนมาก คนที่จะอยู่ได้ในธุรกิจนี้ จะต้องมีการเตรียมตัวที่ดี มีการทำการบ้านและการพัฒนาตัวเองมากพอควร หากมองว่า มีร้านกาแฟเกิดขึ้นเยอะแยะ แล้วจะอยู่รอดเหรอ หากเปรียบเทียบก็เหมือนร้านข้าวมันไก่ ร้านก๋วยเตี๋ยวแหละที่มีอยู่ทั่วไป ร้านไหนทำได้รสชาติดี อร่อยก็อยู่ได้ แต่ถามว่า ถ้าให้เลือกทำธุรกิจอะไรสักอย่าง หากจะเลือกร้านกาแฟ ก็ไม่ผิดในตอนนี้ ถ้าคุณคิดว่าคุณมีความสุขกับการได้ดื่มกาแฟ และมีความสุขกับงานบริการ สำหรับก่อนการเปิดร้านสิ่งแรกที่ควรจะทำคือ
- สำรวจความพร้อมของตนเอง
พร้อมหรือยังกับทุ่มเทให้ร้านของคุณ มีเงินออมมากพอไหม และที่สำคัญมีเวลาให้กับธุรกิจกาแฟที่คุณรักหรือยัง
- หาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟและร้านกาแฟ
การหาข้อมูลนั้นอาจจะหาข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยอาจจะหาผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆ หรือโดยการหาหนังสือเกี่ยวกับวิธีการชงกาแฟแบบต่างๆ การทำร้านกาแฟ สุดท้ายก็ลงเรียน ชงกาแฟ สัก 2-3 ที่ ก่อนไปเรียนก็ พยายามสร้างคำถามไว้ในใจว่าจะไปถามอะไรบ้างตอนเรียนนะ เพราะเหมือนกับเรามีความรู้อยู่ระดับหนึ่ง แล้วไปทบทวนเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้จริง ที่สำคัญอย่าอายครูและเพื่อนร่วมชั้นจะ จะไม่รู้วิชา ก็เหมือนกับ อายภรรยา ก็ไม่มีบุตรละ
- การมองหาทำเลทองสำหรับเปิดร้านกาแฟ
ปัจจัยที่สำคัญในการทำให้ธุรกิจกาแฟให้อยู่รอดหรือไม่คือทำเลที่เปิดร้านหลาย ต่อหลายคนใช้เวลาหาเป็นปี เพื่อให้ได้ดีที่สุด อย่าด่วนตัดสินใจอะไรง่ายๆนะ โดยประเภทของทำเลประกอบด้วย
- ปั๊มน้ำมัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ปั๊มน้ำมันเป็นสถานที่แรกที่คนอยากเปิดร้านกาแฟ อาจจะมาจากประสบการณ์ตนเองเป็นผู้ใช้บริการ และเห็นว่าเป็นธุรกิจควบคู่ปั้มน้ำมันไปแล้ว บางปั้มเปิดแล้วอยู่ไม่รอดก็มีนะ ปั้มที่จะอยู่รอดต้องเป็นจุดที่คนส่วนใหญ่แวะ เช่น ปั้มที่อยู่ระหว่างเส้นทางออกสู่ต่างจังหวัด เหมือนกับว่าพอขับรถมาได้ระยะหนึ่งอยากพักหรือแวะเข้าห้องน้ำก็แวะทานกาแฟด้วย เป็นต้น หรือก็ต้องเป็นปั้มที่ใหญ่สะอาดพอสมควร เช่น ปั๊มน้ำมันแถววิภาวดี เป็นต้นแต่อย่าลืมว่าปั๊ม ใหญ่ๆ ทำเลดีก็เป็นของกาแฟปั๊มรายใหญ่หมดแล้ว ที่เหลือก็เป็นปั้มที่ไม่ค่อยมีใครเอานะ เพราะทำเลไม่ดีนะ
- ออฟฟิศ สำนักงานกลางเมืองหลวง ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่แย่งและแข่งกันกันพอดู บางตึกกลางเมือง มีร้านกาแฟ 2-3 ร้าน ก็ต้องสู้กันยิบตา
- ร้านกาแฟบริเวณช็อปปิ้งมอลล์ เช่น ย่านอารีย์ สุขุมวิท ทองหล่อ เป็นต้น สถานที่ดังกล่าวอาจจะดี แต่ก็มีปัญหาคือค่าเช่าที่แพงพอควร
- ห้างสรรพสินค้าหรือโมเดิร์นเทรด (พื้นที่เช่าอาจสูงมากส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะแค่เคาน์เตอร์ตามศูนย์อาหาร เหมาะสำหรับการซื้อกลับไม่มีจุดนั้งทาน)
ส่วนประเด็นสำคัญคือ ทำเลนั้นต้องมีผู้คนผ่านพอควร และค่าเช่าที่ไม่สูงมากเกินไป
- การเลือกซื้ออุปกรณ์กาแฟ
หลายต่อหลายคนหมดค่าใช้จ่ายไปกับการซื้อเครื่องชงกาแฟหลายแสน เปิดได้สักปีก็ปิดกิจการ ขายเครื่องคืนเหลือไม่กี่บาท หรือขายไม่ได้
การเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์กาแฟนั้น เป็นสิ่งถูกต้องที่สุดว่าเครื่องชงราคาแพงจะได้คุณภาพน้ำกาแฟที่ดีด้วย แต่ถ้าซื้อเครื่องขนาดสองแสนกว่าบาทมาชงขาย แก้วละ 20-35บาท ปกติราคานี้หักค่าวัตุดิบ ไม่รวมค่าเช่า ค่าพนักงาน จะมีกำไรประมาณ 10 กว่าบาท เอาไปหารค่าเครื่องเอาว่าเมื่อไหร่จะคืนทุน ถ้าขายดี ก็โชคดีไป ถ้าขายไม่ได้ก็โชคร้าย
วิธีการเลือกเครื่องชงกาแฟที่ดีที่สุดเลือกให้เหมาะกับขนาดธุรกิจ และกลุ่มลูกค้า เช่นจะขายสัก 30-35 ก็เครื่องชงสัก 5 หมื่นก็พอโอเค ถ้าจะขายสัก 40-50 บาทขึ้นก็ เครื่องเป็นแสนเอาเลย เพราะอย่างน้อยคุณคงมีเงินค่าแต่งร้านอีกหลายแสนอยู่ละ
- การวางแผนธุรกิจกาแฟ
หลายต่อหลายคนทำธุรกิจโดยไม่เห็นความสำคัญกับการวางแผน เพราะคิดว่าแค่ชงกาแฟเป็น ชงอร่อย ทำเลดี ก็น่าจะขายได้แล้วตามการบอกกล่าว ของคนขายกาแฟทั่วไป พอเปิดร้านจริงปัญหาร้อยแปดจะมาในทันที ถ้ามีงานประจำอยู่บอกได้เลยพักร้อนเลย หรืออาจจะต้องเลือกด้วยซ้ำว่าจะเลือกอะไร ถ้าไม่งานอื่นที่ต้องรับผิดชอบก็เฝ้าร้านรอแก้ปัญหาเลย ขนาดเขาวางแผนการทำธุรกิจยังต้องปวดหัวเลยแล้วถ้าคุณไม่วางแผนที่จะทำละ ปัญหาจะมาร้อยเท่าพันเท่าเลย การวางแผนธุรกิจ คืออะไร ผมขอเล่าย่อๆ ก่อนนะ คือวางแผนว่าจะขายใคร จะมียอดขายสักเท่าไหร่ที่ตนเองจะต้องการ เพื่อที่จะพอจ่ายค่าเช่าร้านและเกิดกำไร จะหากาแฟจากที่ไหนจะขายราคาเท่าไหร่ จะลดแลกแจกแถมแบบไหน จะจ้างเด็กในร้านกี่คน ในร้านควรมีอะไรบ้าง จะติดอินเตอร์เน็ต ให้บริการฟรีหรือเก็บค่าบริการ เรื่องเล่านี้จะถูกเขียนไว้ล่วงหน้าทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องสำคัญ การวางงบประมาณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดจะหาเงินจากไหนมาหมุนให้ธุรกิจกาแฟอยู่ต่อไปได้
และที่สำคัญที่สุด ในโลกใบนี้มีคนที่อยากทำโน่นทำนี่มากมาย แต่มีคนที่สนใจจะทำหรือลงมือในวันนี้แค่ 40 เปอร์เซ็นต์ เห็นจะได้ เพราะคิดว่าไม่พร้อม อยู่ตลอดเวลา บางคนก็รอให้พร้อมอายุประมาณ 50 หรือ 60 ปีนะ แต่รู้ไหมถ้าทำแล้วผิดพลาดตอนนั้นนะมันลำบากมาก ถ้าในวันนี้คุณมีแรงกาย แรงใจ และแรงบันดาลใจในการเป็นผู้ประกอบการเต็มที่ก็รองสำรวจตัวเองและลงมือเลย ฝันของคุณจะเป็นจริง